Engineering1986 > สาระความรู้ > ความสำคัญของระบบกราวด์ในการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตามมาตรฐาน

การใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ในอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เพราะเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับระบบเมื่อเกิดไฟฟ้าดับหรือขาดแคลนไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายหลัก การติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจึงต้องคำนึงถึงมาตรฐานและความปลอดภัยอย่างรอบด้าน ตามมาตรฐานการออกแบบและติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ที่ถูกกำหนดโดย วสท. (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์) โดยเฉพาะในเรื่อง ค่ากราวด์ และการออกแบบติดตั้งที่ถูกต้อง เพื่อให้ระบบทำงานได้เสถียรและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน

มาตรฐานการออกแบบติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าต้องคำนึงถึงการติดตั้งระบบกราวด์

การติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าต้องปฏิบัติตาม มาตรฐานการออกแบบติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า อย่างเคร่งครัด โดยอ้างอิงจากมาตรฐานสากล เช่น ISO, IEEE และ วสท. (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย) ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้จะกำหนดข้อกำหนดสำคัญ โดยเฉพาะ ระบบกราวด์ (Grounding) ต้องติดตั้งอย่างถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้ารั่วและไฟฟ้าลัดวงจร

ค่ากราวด์หลักดิน หมายถึงค่าความต้านทานไฟฟ้าระหว่างระบบกราวด์ (Grounding System) กับพื้นดิน (Earth) ซึ่งใช้ในการวัดความสามารถของระบบกราวด์ในการนำกระแสไฟฟ้าออกจากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือโครงสร้างลงสู่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยค่ากราวด์หลักดินมักจะวัดในหน่วย โอห์ม (Ohm)

ความสำคัญของค่ากราวด์หลักดิน

  1. ความปลอดภัย การควบคุมค่ากราวด์ให้อยู่ในระดับมาตรฐานช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว หรือแรงดันไฟฟ้าเกินที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานหรืออุปกรณ์
  2. การป้องกันอุปกรณ์ ลดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าหากเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือฟ้าผ่า โดยช่วยกระจายกระแสไฟฟ้าลงดิน
  3. สอดคล้องตามมาตรฐาน ระบบกราวด์ที่มีค่าความต้านทานต่ำจะช่วยให้เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานต่าง ๆ เช่น มาตรฐานของ วสท. (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย) และมาตรฐานสากล NFPA 110

ค่าแนะนำสำหรับค่ากราวด์หลักดินตามมาตรฐาน วสท.

  • มาตรฐานของ วสท. ระบุว่าค่ากราวด์ควรอยู่ที่ ไม่เกิน 5 โอห์ม(Ohm) สำหรับระบบไฟฟ้าทั่วไป แต่ในบางกรณี เช่น ระบบไฟฟ้าแรงสูง ค่ากราวด์อาจถูกกำหนดให้ต่ำกว่านี้เพื่อความปลอดภัย
  • ค่ากราวด์ที่สูงเกินไปบ่งชี้ว่าระบบกราวด์มีความต้านทานสูง ซึ่งอาจไม่สามารถป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าได้ดีพอ
  • ค่ากราวด์ที่ต่ำ ใกล้เข้าใกล้ 0 Ω (Ohm) แสดงถึงระบบกราวด์มีประสิทธิภาพในการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่วและลดความเสี่ยงต่ออุปกรณ์ได้ดี

กราวด์เป็นการใช้สายไฟหรือวัสดุอื่นๆ ในการเชื่อมต่อกับดินเพื่อสร้างเส้นทางให้กระแสไฟฟ้าไหลลงดินเมื่อเกิดไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจร ระบบกราวด์มีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยในงานไฟฟ้า เนื่องจากช่วยป้องกันไฟฟ้าดูดและลดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า

เมื่อใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ระบบกราวด์จะทำหน้าที่สำคัญ ในการป้องกันไฟฟ้ารั่วที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน ป้องกันอุปกรณ์เสียหาย ต่อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ช่วยให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ อีกทั้งการตรวจค่ากราวด์ยังช่วยให้สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาไฟฟ้าในระบบได้ง่ายขึ้น

ทีมงาน Engineering 1986 เล็งเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการตรวจสอบค่ากราวด์หลักดิน (Ground System) เราจึงทำการตรวจสอบ พร้อมบริการแก้ไขปัญหาด้านการติดตั้งระบบกราวด์ เพราะการเดินสายกราวด์ที่ดีและเป็นไปตามมาตรฐานจะช่วยให้การใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อทรัพย์สินและชีวิต หากตรวจสอบค่ากราวด์ที่มีค่าสูงเกินมาตรฐาน หรือพบการติดตั้งและเดินสายกราวด์ที่ไม่ถูกต้อง สามารถเลือกใช้บริการทีมงานวิศวกรมืออาชีพจาก Engineering 1986 ให้เข้าตรวจสอบ พร้อมบริการงานซ่อม งานติดตั้งตามมาตรฐานตาม วสท. ได้เลย

 

วิธีวัดค่ากราวด์ในการทดสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตามมาตรฐาน วสท. และ NFPA 110

การวัดค่ากราวด์สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า การปฏิบัติตามมาตรฐาน วสท. (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย) และ NFPA 110 (National Fire Protection Association) จะช่วยให้การวัดค่ากราวด์มีความถูกต้องและปลอดภัย

เครื่องมือที่ใช้ในการวัดค่ากราวด์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าตามมาตรฐาน

การวัดค่ากราวด์สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าต้องใช้เครื่องมือที่มีความแม่นยำและได้รับการรับรองมาตรฐาน การวัดค่าความต้านทานกราวด์ (Ground Resistance Test) โดยใช้ เครื่องวัดค่ากราวด์แบบแคลมป์ (Clamp-on Ground Resistance Tester) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อวัดค่าความต้านทานของระบบกราวด์ โดยไม่ต้องตอกแท่งหลักสมอเพิ่มเติม และไม่ต้องแยกวงจรกราวด์ออกจากระบบหลัก

วัตถุประสงค์ของการทดสอบ

  • ตรวจสอบค่าความต้านทานกราวด์ของ สายดิน หรือ ระบบกราวด์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
  • ประเมินว่าระบบกราวด์มีความสามารถในการระบายกระแสไฟฟ้าส่วนเกินลงดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการใช้งานเครื่องวัดค่ากราวด์แบบแคลมป์

  1. เตรียมเครื่องมือ (Clamp-on Ground Resistance Tester)
    • ตรวจสอบว่าเครื่องอยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน โดยเช็คค่า “00” หรือค่ามาตรฐานเริ่มต้น

1.2 ตรวจสอบว่าเครื่องได้มาตรฐาน ไม่คาดเคลื่อน โดยใช้ Calibrate ตาม verifying loop และอ่านค่า บวกลบค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน ± ตามที่มาตรฐานอุปกรณ์กำหนด

  1. ขั้นตอนการวัด
    • ตรวจสอบว่าไม่มีการไหลของกระแสไฟฟ้าในขณะทำการวัด เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ
    • เปิดปากแคลมป์ของเครื่องวัด
    • หนีบสายกราวด์ หรือสายดินของระบบที่ต้องการทดสอบ เช่น สายกราวด์ที่ต่อกับตัวถังเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือแท่งกราวด์หลักดิน
  2. อ่านค่าผลลัพธ์
    • ค่าที่แสดงบนหน้าจอจะเป็นค่าความต้านทานของระบบกราวด์ (หน่วย: โอห์ม, Ω)
    • หากค่าที่วัดได้ต่ำกว่าเกณฑ์ เช่น ต่ำกว่า 5 Ω (ตามมาตรฐาน วสท. และ NFPA 110) ถือว่าระบบกราวด์มีประสิทธิภาพดี

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • ควรแน่ใจว่าไม่มี กระแสไฟฟ้ารั่ว หรือการทำงานผิดปกติในระบบไฟฟ้าระหว่างการทดสอบ
  • ตรวจสอบว่าสายกราวด์หรือจุดที่หนีบไม่มีการหลวม เพื่อป้องกันค่าที่วัดได้ผิดเพี้ยน

การดูแลและตรวจสอบระบบกราวด์อย่างเหมาะสมจะช่วยให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน การวัดค่าความต้านทานกราวด์ช่วยยืนยันว่า ระบบกราวด์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สามารถป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้ารั่ว, ไฟฟ้าช็อต, หรือแรงดันไฟฟ้าเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากค่าความต้านทานที่ต่ำบ่งบอกถึงระบบที่พร้อมรองรับกระแสไฟฟ้าส่วนเกินและลดความเสี่ยงในกรณีฉุกเฉิน

การตรวจสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประจำปี ด้วยทีมงานวิศวกรมืออาชีพจาก Engineering 1986 จึงมีการสอบเทียบอุปกรณ์ทดสอบ และทดสอบค่ากราวด์หลักดิน รับตรวจสอบและซ่อมบำรุง ตามมาตรฐานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) มีบริการติดตั้ง ปรับปรุงระบบกราวด์หลักดิน Grounding System ให้เป็นไปตาม ตามมาตรฐานสากล NFPA110 และมาตรฐาน วสท.

พร้อมบริการหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีระบบเอกสารออนไลน์ ที่ให้ลูกค้าสแกนตรวจสอบงานซ่อมบำรุงผ่าน QR Code ได้จากหน้าเครื่องที่เราดูแล ตลอดอายุสัญญา

พบปัญหางานซ่อมบำรุง Generator ต้องการผู้ช่วยวิศวกรตรวจสอบ และปรับปรุงระบบกราวด์หลักดิน ให้เป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ติดต่อ Engineering 1986

🔸 บริการงานซ่อมบำรุง ตรวจสอบ Generator ต่อครั้ง/รายปี จากทีมงานมืออาชีพ วิเคราะห์ปัญหาอย่างละเอียด

🔸บริการงานติดตั้งและปรับปรุง Grounding System เปลี่ยนและเดินสายดินให้ปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐาน

🔹 นัดประชุมกับลูกค้าหลังทำงานเสร็จเพื่อรายงานผลและแจ้งข้อเสนอแนะในการซ่อมบำรุง

🔹 มี QR CODE สแกนเข้าโปรแกรมแจ้งแผนงานซ่อมบำรุง ติดตามประวัติการซ่อมบำรุงได้จากหน้าเครื่อง หมดความกังวลเรื่องเอกสารหาย หาเอกสารไม่เจอ

🔹บริการ Overhaul Engine Generator / PM Generator ประจำปี / ตรวจสอบและซ่อมบำรุงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตามมาตรฐาน / Performance test และ Load test ให้สอดคล้องกับปริมาณการใช้ไฟฟ้า

👨🏻‍🔧 ได้รับการรับรองและมีใบอนุญาตจากสภาวิศวกร พร้อมเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยได้เสมอเลือกใช้บริการ Engineering 1986

24 Hours Hotline ‼️

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ปรึกษางานบริการหรือสินค้าอื่น ๆ ได้ที่ 👇🏻

👩🏻‍🔧ฝ่ายขาย

☎️ Tel : 02-159-9477

☎️ Tel : 065-440-4513

📧 E-mail : sales@engineering1986.com

📧 E-mail : manager@engineering1986.com

👨🏻‍🔧ฝ่ายวิศวกรรม

🟢Line : @engineering1986 หรือ https://lin.ee/thW3g86

☎️ Tel : 02-159-9477

☎️ Tel : 063-072-9452