Engineering1986 > สาระความรู้ > ปั๊มแย๊ก และ AC Pump คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร ?
ปั๊มแย๊ก และ AC Pump คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร ?
AC Pump หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ปั๊มแย๊กน้ำมัน คือ ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบกลไก (Mechanical Fuel Pump) เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยเฉพาะในเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ ระบบคาร์บูเรเตอร์ (Carburetor) หรือ ระบบการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงกับอากาศ ในสัดส่วนที่เหมาะสม แล้วส่งส่วนผสมนี้เข้าสู่กระบอกสูบของเครื่องยนต์เพื่อทำการเผาไหม้
ชื่อ “AC Pump” มาจากบริษัท AC Delco ซึ่งเป็นผู้ผลิต Mechanical Fuel Pump รายใหญ่ในอดีต และชื่อดังกล่าวจึงกลายเป็นคำที่นิยมเรียกปั๊มประเภทนี้ในหลายพื้นที่ แม้จะไม่ได้ผลิตโดย AC Delco ก็ตาม
ชื่อ “ปั๊มแย๊ก” เป็นชื่อที่ใช้กันทั่วไปในหมู่ช่างเครื่องยนต์ในประเทศไทย มาจาก ลักษณะการทำงานของปั๊มเชื้อเพลิงแบบกลไก ที่มีการเคลื่อนไหวขึ้นลงหรือโยกไปมา ซึ่งมีเสียงหรือจังหวะคล้ายกับคำว่า “แย๊ก” และกลายมาเป็นชื่อเรียกที่เข้าใจกันในวงการช่าง โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับชื่อเฉพาะทางเทคนิคหรือยี่ห้อของปั๊ม
ที่มาของชื่อ “ปั๊มแย๊ก”
- มาจากเสียงการทำงาน
เมื่อปั๊มเชื้อเพลิงกลไกทำงาน มันจะมีการเคลื่อนที่ของแผ่นไดอะแฟรม (Diaphragm) ที่ถูกดันขึ้นลงหรือโยกไปมาโดยกลไกของเพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) หรือข้อเหวี่ยง (Crankshaft) จนเกิดเสียงและจังหวะที่อาจฟังคล้ายคำว่า “แย๊กๆ” ทำให้ช่างเรียกตามเสียงที่ได้ยิน
- ลักษณะการเคลื่อนที่
การทำงานของปั๊มมีการเคลื่อนไหวแบบต่อเนื่องและเป็นจังหวะเหมือนการ “แย๊ก” หรือ “กระดก” ซึ่งช่วยให้จดจำและอธิบายได้ง่าย
- ภาษาเฉพาะในวงการช่าง
ช่างเครื่องยนต์มักมีการตั้งชื่อเรียกอุปกรณ์ที่ไม่เป็นทางการเพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารในกลุ่ม เช่นเดียวกับคำว่า “ปั๊มแย๊ก” ที่กลายเป็นคำเรียกที่คุ้นเคยในประเทศไทย แม้ในเอกสารทางการจะเรียกส่วนนี้ว่า Mechanical Fuel Pump หรือ AC Pump
สรุปคือชื่อ “ปั๊มแย๊ก” และ “AC Pump” หมายถึงอุปกรณ์เดียวกัน ในบทความนี้ จึงจะใช้ชื่อภาษาไทยเป็น “ปั๊มแย๊ก” และชื่อภาษาอังกฤษ เป็น “AC Pump” เพื่อให้สอดคล้องกับคำนิยมในการเรียก แต่นิยามเหล่านี้ ล้วนเป็นสื่อถึงอุปกรณ์ที่มีชื่อทางการว่า ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบกลไก (Mechanical Fuel Pump) ทั้งสิ้น
หน้าที่ของปั๊มแย๊ก (AC Pump) ในระบบเครื่องยนต์
ปั๊มแย๊ก (AC Pump) เป็นอุปกรณ์สูบน้ำมันเพื่อ ส่งเชื้อเพลิงจากถังไปยังคาร์บูเรเตอร์หรือหัวฉีดที่เป็นระบบจ่ายเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซล ที่ขับเคลื่อนโดยการใช้พลังงานกล โดย AC Pump จะรักษาแรงดันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องยนต์ เพื่อให้คาร์บูเรเตอร์หรือหัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานของ AC Pump ปั๊มเชื้อเพลิงนี้ถูกขับเคลื่อนโดยการหมุนของเพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) หรือบางกรณี เพลาข้อเหวี่ยง (Crankshaft) ทำให้จังหวะการจ่ายเชื้อเพลิงสัมพันธ์กับการทำงานของเครื่องยนต์
ลักษณะการทำงานของปั๊มแย๊ก หรือ AC Pump
AC Pump ทำงานโดยใช้ แผ่นไดอะแฟรม (Diaphragm) ที่ขยับขึ้นลงในตัวปั๊ม
- เมื่อไดอะแฟรมถูกดึงลง จะสร้างแรงดูด (Vacuum) ที่ดึงเชื้อเพลิงจากถังน้ำมันเข้าสู่ปั๊มผ่านวาล์วทางเข้าที่เปิด-ปิดได้
- เมื่อไดอะแฟรมดันขึ้น เชื้อเพลิงจะถูกดันออกจากปั๊มผ่านวาล์วทางออก และส่งต่อไปยังคาร์บูเรเตอร์หรือหัวฉีด
ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย ทำให้ AC Pump มีอายุการใช้งานยาวนาน และง่ายต่อการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน
ความสำคัญของปั๊มแย๊ก AC Pump และหลักการทำงานของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ดีเซล
ปั๊มแย๊ก AC Pump เป็นส่วนหนึ่งของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สำหรับ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องสูบน้ำดับเพลิง โดยทำหน้าที่จัดสรรและจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้ตั้งแต่เริ่มสตาร์ท ระหว่างการทำงาน จนถึงการหยุดเครื่อง ซึ่งระหว่างการทำงานของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลายส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกันดังนี้
หลักการทำงานของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง
หลักการทำงานของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่
- ขั้นตอนการสตาร์ทเครื่องยนต์
- ระหว่างเครื่องยนต์ทำงาน
- การดับเครื่องยนต์
- ขั้นตอนการสตาร์ทเครื่องยนต์
เมื่อเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ดีเซล ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงจะทำงานเพื่อเตรียมการเผาไหม้ ดังนี้:
กระบวนการทำงานของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์
ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Pump)
- ปั๊มเชื้อเพลิงจะดึงน้ำมันจากถังเชื้อเพลิง (Fuel Tank) ผ่านท่อส่งน้ำมัน (Fuel Line) ไปยังระบบกรอง
- ประเภทของปั๊มที่ใช้คือ Mechanical Fuel Pump หรือ ปั๊มแย๊ก (AC Pump)
- กรองน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Filter)
- ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกและน้ำที่อาจปนเปื้อนในน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันความเสียหายของหัวฉีด
- ปั๊มอัดกำลังน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Injection Pump):
- เพิ่มแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับสูงเพียงพอสำหรับการจ่ายไปยังหัวฉีด
- หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Injector):
- หัวฉีดทำหน้าที่ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ (Combustion Chamber) ในรูปของละอองละเอียด เพื่อผสมกับอากาศ
- สตาร์ทมอเตอร์ (Starter Motor):
- หมุนเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อให้กระบอกสูบอัดอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงจนเกิดการเผาไหม้
- ระหว่างเครื่องยนต์ทำงาน
ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งน้ำมันไปยังห้องเผาไหม้
กระบวนการทำงาน
- การดูดน้ำมันจากถัง
- ปั๊มเชื้อเพลิง (AC Pump) ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อดูดน้ำมันจากถังและส่งผ่านกรองน้ำมัน
- การเพิ่มแรงดันและการฉีดน้ำมัน
- ปั๊มแรงดันสูงจะสร้างแรงดันสูงให้กับน้ำมัน และจ่ายไปยังหัวฉีดเพื่อฉีดละอองน้ำมันเข้าสู่กระบอกสูบในจังหวะที่เหมาะสม
- การควบคุมปริมาณน้ำมัน
- ระบบควบคุมปริมาณน้ำมัน (Fuel Control System) ทำหน้าที่ปรับปริมาณน้ำมันให้เหมาะสมกับโหลดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
- ระบบระบายความร้อนน้ำมัน (Fuel Cooling System)
- น้ำมันเชื้อเพลิงส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้งานจะถูกระบายกลับไปยังถังน้ำมันผ่านระบบระบายความร้อน
- การดับเครื่องยนต์
เมื่อหยุดใช้งานเครื่องยนต์ ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงจะหยุดทำงานและเข้าสู่สถานะพัก
กระบวนการทำงาน
- การหยุดการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง
- หัวฉีดน้ำมันหยุดการจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้
– การหยุดนี้เกิดจากการปิดระบบควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง
- การระบายแรงดันในระบบ
– ปั๊มแรงดันสูงหยุดการทำงาน และน้ำมันส่วนเกินจะถูกส่งกลับถังเชื้อเพลิงผ่านท่อรีเทิร์น
- ระบบหยุดเครื่องยนต์ (Engine Stop Solenoid)
- ตัวโซลินอยด์ทำหน้าที่ตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังหัวฉีดเพื่อให้เครื่องยนต์หยุดทำงาน
หากปั๊มแย๊ก (AC Pump) มีปัญหา จะมีอาการอย่างไรบ้าง
หาก ปั๊มแย๊ก (AC Pump) หรือ Mechanical Fuel Pump มีปัญหาหรือเสีย อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และทำให้เครื่องยนต์มีอาการผิดปกติต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาในปั๊ม ดังนี้
อาการที่เกิดขึ้นเมื่อปั๊มแย๊กเสียหรือมีปัญหา
- เครื่องยนต์สตาร์ทติดยากหรือสตาร์ทไม่ติด
- เมื่อปั๊มแย๊กไม่สามารถดูดน้ำมันจากถังหรือส่งน้ำมันไปยังคาร์บูเรเตอร์หรือหัวฉีดได้ เครื่องยนต์จะขาดน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการเผาไหม้
- อาการนี้พบได้ชัดเจนเมื่อปั๊มเสียหรือแรงดันน้ำมันไม่เพียงพอ
- เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ
- หากปั๊มทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ปริมาณน้ำมันที่จ่ายอาจไม่สม่ำเสมอ ทำให้เครื่องยนต์เดิน รอบเบาไม่นิ่ง หรืออาจดับระหว่างเครื่องทำงาน
- เครื่องยนต์กำลังตกหรือดับระหว่างการทำงาน
- หากปั๊มไม่สามารถส่งน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพียงพอในช่วงที่เครื่องยนต์ต้องการพลังงานสูง (เช่น การเร่งเครื่อง) อาจทำให้เครื่องยนต์กำลังตกและดับ
- เสียงผิดปกติจากปั๊มแย๊ก
- ปั๊มอาจมีเสียงผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากแผ่นไดอะแฟรมฉีกขาดหรือชิ้นส่วนภายในหลวม
- การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ
- หากปั๊มแย๊กมีการรั่วซึม (เช่น แผ่นไดอะแฟรมขาดหรือวาล์วไม่ปิดสนิท) น้ำมันเชื้อเพลิงอาจรั่วออกโดยไม่ได้ถูกส่งไปยังเครื่องยนต์ ส่งผลให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
- น้ำมันรั่วซึมรอบปั๊ม
- ปัญหานี้มักเกิดจากแผ่นไดอะแฟรมเสื่อมสภาพหรือมีรอยรั่ว ทำให้น้ำมันไหลออกมารอบปั๊ม
- เครื่องยนต์ไม่สามารถเร่งรอบได้
- หากแรงดันน้ำมันต่ำเกินไป เครื่องยนต์อาจขาดน้ำมันเมื่อเร่งรอบสูง ส่งผลให้รอบเครื่องยนต์ไม่สามารถเพิ่มได้ตามต้องการ
วิธีตรวจสอบและแก้ไข
- ตรวจสอบแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง : ใช้เครื่องวัดแรงดัน (Fuel Pressure Gauge) เพื่อวัดแรงดันน้ำมัน หากต่ำกว่าค่ามาตรฐาน อาจบ่งบอกว่าปั๊มมีปัญหา
- ตรวจหารอยรั่ว : ตรวจสอบตามสภาพภายนอกด้วยสายตาว่ามีน้ำมันรั่วออกมารอบ ๆ ปั๊มแย๊กหรือไม่
- เปลี่ยนแผ่นไดอะแฟรม : แผ่นไดอะแฟรมอาจเสื่อมตามอายุการใช้งาน มีความยืดหยุ่นลดลง แข็งตัว หรือฉีกขาด หากแผ่นไดอะแฟรมเสื่อมสภาพ สามารถเปลี่ยนเฉพาะแผ่นไดอะแฟรมได้
- ตรวจสอบท่อและกรองน้ำมัน : ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนท่อและกรองน้ำมันเชื้อเพลิงที่อาจอุดตัน
- ตรวจสอบก้านขับและเพลาลูกเบี้ยว : หากก้านขับสึกหรอหรือเสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่
เมื่อ ปั๊มแย๊ก (AC Pump) เสียหรือมีปัญหา ควรเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทันทีเมื่อพบปัญหา เพราะจะทำให้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เครื่องยนต์มีปัญหา เช่น สตาร์ทไม่ติด, เครื่องยนต์เดินไม่เรียบ, หรือกำลังตก การแก้ไขควรเริ่มจากการตรวจสอบแรงดันน้ำมัน การหารอยรั่ว และการตรวจสภาพของปั๊ม รวมถึงการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และหากพบปัญหาในการเปลี่ยนอะไหล่ ตรวจสอบ และซ่อมบำรุงระบบเครื่องยนต์ต้นกำลัง สามารถเรียกวิศวกรมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญให้เข้าช่วยเหลือและซ่อมบำรุงเพื่อความปลอดภัยของระบบ และลดปัญหาความผิดพลาดจากการไม่เชี่ยวชาญ
👨🏻🔧 Engineering 1986 ผู้เชี่ยวชาญงานซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ดีเซล สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องสูบน้ำดับเพลิง ด้วยทีมงานวิศวกรมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญงานซ่อมบำรุงประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ทางเราพร้อมแนะนำ การแก้ปัญหาอย่างตรงจุด รับเปลี่ยนอุปกรณ์ชุดอะไหล่อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับระบบของลูกค้า รวมถึงมีรับประกันงานซ่อม เปลี่ยนและติดตั้งปั๊มแย๊ก (AC Pump) ที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบอุปกรณ์และจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ตรงรุ่นให้กับเครื่องของลูกค้า ดำเนินงานโดยได้รับการรับรองและมีใบอนุญาตจากสภาวิศวกร พร้อมเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน พร้อมดูแลลูกค้าบริการ Hotline 24 ชั่วโมง ตลอดอายุสัญญา
🔹บริการตรวจสอบ ซ่อมบำรุง เปลี่ยนอะไหล่ Corrective Maintenance จัดหาอะไหล่ตรงรุ่น พร้อมรับประกันงานซ่อม 1 ปี ตลอดอายุสัญญางานตรวจสอบและซ่อมบำรุงรายปี
🔹บริการตรวจสอบและซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ต้นกำลัง สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเครื่องสูบน้ำดับเพลิง ประจำปี Preventive Maintenance / Annual Maintenance / Performance test ตรวจสอบ อุปกรณ์ อะไหล่ทุกชิ้น รายงานปัญหาอย่างละเอียดทั้งระบบการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
🔹บริการ Training Free ให้กับทีมงานช่างผู้ดูแลอาคารและสถานที่ของลูกค้า พร้อมแนะนำวิธีดูแลอุปกรณ์หน้างาน ให้ลูกค้าเข้าใจปัญหาและแก้ไขได้เองเบื้องต้น มีบริการสายด่วนฉุกเฉิน Hotline 24 ชั่วโมง
🔹 มี QR CODE สติ๊กเกอร์หน้าเครื่อง สามารถตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุงได้จากมือถือ หมดปัญหาด้านเอกสาร พร้อมทุกเมื่อสำหรับงาน Audit
👨🏻🔧 ดูแลเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องสูบน้ำดับเพลิงให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยวิศวกรมืออาชีพ ได้รับการรับรองจากสภาวิศวกร เลือกใช้บริการ Engineering 1986
24 Hours Hotline ‼️
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม งานบริการหรือสินค้าอื่น ๆ ได้ที่ 👇🏻
👩🏻🔧ฝ่ายขาย
☎️ Tel : 02-159-9477
☎️ Tel : 065-440-4513
📧 E-mail : sales@engineering1986.com
📧 E-mail : manager@engineering1986.com
👨🏻🔧ฝ่ายวิศวกรรม
🟢Line : @engineering1986 หรือ https://lin.ee/thW3g86
☎️ Tel : 02-159-9477
☎️ Tel : 063-072-9452