Engineering1986 > สาระความรู้ > Intercooler คืออะไร ? ประเภท และ หลักการทำงานของอินเตอร์คูลเลอร์

Intercooler คืออะไร? หน้าที่และความสำคัญของอินเตอร์คูลเลอร์

Intercooler เป็นอุปกรณ์ทางกลที่ใช้ในการระบายความร้อนของอากาศในเครื่องยนต์ที่ติดตั้งการอัดอากาศบังคับ (เช่นเทอร์โบชาร์จเจอร์หรือเครื่องอัดบรรจุอากาศ)

Intercooler ทำอะไร?

งานของ intercooler คือการทำให้อากาศเย็นลงหลังจากที่บีบอัดด้วยเทอร์โบหรือซูเปอร์ชาร์จเจอร์ แต่ก่อนที่จะเข้าสู่เครื่องยนต์

จุดประสงค์หลักของ Intercooler คือการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ โดยการทำให้อากาศเย็นลง เพิ่มความหนาแน่น และทำให้สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

Intercooler มีบทบาทสำคัญทั้งใน เครื่องยนต์รถยนต์ และ เครื่องยนต์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งต้องทำงานภายใต้สภาวะที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุด

intercooler ทำงานอย่างไร?

Turbochargers ทำงานโดยการบีบอัดอากาศเพิ่มความหนาแน่นของมันก่อนที่จะถึงกระบอกสูบของเครื่องยนต์ ด้วยการบีบอากาศเข้าไปในแต่ละกระบอกสูบเครื่องยนต์จะเผาผลาญเชื้อเพลิงได้มากขึ้นทำให้เกิดการระเบิดขึ้นทุกครั้ง

กระบวนการอัดนี้สร้างความร้อนขึ้นมากและเพิ่มอุณหภูมิของอากาศเข้าไปในเครื่องยนต์ แต่เมื่ออากาศร้อนขึ้นก็จะมีความหนาแน่นน้อยลงลดปริมาณออกซิเจนที่มีอยู่ในแต่ละกระบอกสูบและส่งผลต่อสมรรถนะ

intercooler ทำงานเพื่อตอบโต้กระบวนการนี้ทำให้อากาศอัดเพื่อให้เครื่องยนต์มีออกซิเจนมากขึ้นและปรับปรุงการเผาไหม้ในแต่ละสูบ นอกจากนี้โดยการควบคุมอุณหภูมิของอากาศก็ยังเพิ่มความแม่นยำของอัตราส่วนอากาศต่อน้ำมันเชื้อเพลิงในกระบอกสูบให้คงอยู่ในระดับที่ปลอดภัย

ประโยชน์ของ Intercooler

  • ลดอุณหภูมิของอากาศอัดเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของอากาศ
  • ช่วยเพิ่มออกซิเจนที่เข้าสู่กระบอกสูบ
  • เพิ่มประสิทธิภาพของการเผาไหม้
  • ลดความเสี่ยงของอาการ Knocking หรือการเผาไหม้ผิดปกติ
  • ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์เนื่องจากความร้อนที่สูงเกินไป

ในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงจะมี เทอร์โบชาร์จเจอร์ (Turbocharged Diesel Generator) และมีการใช้ Intercooler เพื่อช่วยลดอุณหภูมิของอากาศอัดก่อนเข้าสู่กระบอกสูบ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดความร้อนสะสมภายในเครื่องยนต์ โดยทั่วไป Intercooler ที่ใช้ในเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีทั้ง 2 ประเภท โดย เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ (>1500 kVA) มักใช้ Air-to-Water Intercooler และ เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากลางแจ้งหรือขนาดกลาง (<1000 kVA) มักใช้ Air-to-Air Intercooler ที่ดูแลง่ายกว่า

ส่วน Intercooler ใน Fire Pump ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีเทอร์โบชาร์จเจอร์ ใน โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ต้องการกำลังสูงและต้องทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน เครื่องยนต์ Fire Pump ที่มีขนาดใหญ่ (>1500 GPM) มักใช้ Water-to-Air Intercooler เพื่อรองรับความร้อนที่เกิดขึ้น ส่วน Fire Pump ขนาดเล็ก อาจใช้ Air-to-Air Intercooler ที่มีการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการทำงาน

ในการติดตั้งเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ควรเลือกอย่างเหมาะสม ให้ระบบทำงานควบคู่กันได้ดีกับแรงดันและอุณหภูมิของระบบภายในเครื่องยนต์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ควรติดตั้งหรือเปลี่ยนอุปกรณ์โดยทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ สามารถเลือกใช้บริการจากวิศวกรมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี จาก Engineering 1986 ให้ติดตั้งอุปกรณ์อะไหล่แท้ ตรงรุ่น พร้อมรับประกันงานติดตั้ง ดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ให้ลูกค้ามั่นใจในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ทางเราดูแล

ประเภทและหลักการทำงานของอินเตอร์คูลเลอร์

Intercooler สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ตามระบบการระบายความร้อน ได้แก่

  1. Air-to-Air Intercooler

อินเตอร์คูลเลอร์ ประเภทนี้ใช้ระบบไหลเวียนอากาศ โดยใช้ลมภายนอกในการลดอุณหภูมิของอากาศที่ถูกอัดจากเทอร์โบก่อนเข้าสู่เครื่องยนต์ โดยอากาศร้อนจะไหลผ่านครีบระบายความร้อน (Cooling Fins) ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ข้อเสียคือประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับสภาพอากาศภายนอกและข้อจำกัดในการติดตั้งจะต้องมีการไหลเวียนของอากาศที่เหมาะสม

ข้อดี

  • มีความซับซ้อนของการติดตั้งน้อย ทำให้ติดตั้งง่ายกว่าระบบของเหลว
  • ไม่มีของเหลว ในการทำงาน จึงไม่เสี่ยงต่อการรั่วไหล
  1. Water-to-Air Intercooler

อินเตอร์คูลเลอร์ ชนิดนี้ใช้ น้ำหรือของเหลวระบายความร้อน เป็นตัวกลางในการดูดซับความร้อนจากอากาศอัด น้ำจะถูกสูบผ่านระบบอินเตอร์คูลเลอร์เพื่อให้ความร้อนจากท่อจ่ายถูกโอนไปยังของเหลว การติดตั้งประเภทนี้มีข้อจำกัดด้านพื้นที่น้อยกว่าแบบอากาศ และสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่าแบบ Air-to-Air และเหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ทำงานต่อเนื่อง เช่น เครื่องยนต์ของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator Engine) หรือเครื่องยนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมหนัก

ข้อดี

  • ประสิทธิภาพลดความร้อนได้ดี
  • ขนาดของอินเตอร์คูลเลอร์ที่กะทัดรัดกว่า
  • ข้อจำกัดด้านพื้นที่ติดตั้งน้อยกว่าแบบอากาศ

 

เทอร์โบชาร์จเจอร์ทำงานร่วมกับ Intercooler อย่างไร?

เทอร์โบชาร์จเจอร์คืออะไร?

เทอร์โบชาร์จเจอร์ (Turbocharger) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจากไอเสียของเครื่องยนต์เพื่อนำไปหมุน คอมเพรสเซอร์ (Compressor) ซึ่งจะบีบอัดอากาศให้มีแรงดันสูงขึ้น ก่อนที่อากาศจะเข้าสู่กระบอกสูบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเผาไหม้

Intercooler มีความสำคัญกับเทอร์โบอย่างไร?

เนื่องจากอากาศที่ถูกบีบอัดโดยเทอร์โบมีอุณหภูมิสูงขึ้น Intercooler จึงทำหน้าที่ลดอุณหภูมิของอากาศก่อนที่อากาศจะเข้าสู่เครื่องยนต์ การลดอุณหภูมิอากาศช่วยเพิ่มความหนาแน่นของออกซิเจน ทำให้สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น

  • เพิ่มกำลังของเครื่องยนต์โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิง
  • ช่วยลดโอกาสการเกิด Knocking หรือการเผาไหม้ที่ผิดปกติ
  • ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เสถียรขึ้น ลดภาระความร้อนภายในเครื่องยนต์

ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของ Intercooler และ Turbocharger

  1. อุณหภูมิและแรงดันอากาศ: หากอากาศร้อนเกินไป ประสิทธิภาพของการเผาไหม้จะลดลง
  2. ขนาดของ Intercooler: ต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของเครื่องยนต์
  3. การติดตั้งและตำแหน่งของ Intercooler: ควรติดตั้งในจุดที่อากาศสามารถไหลผ่านได้ดีเพื่อให้มีการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ
  4. ความสะอาดของ Intercooler: ควรมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการอุดตันที่อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง

การเลือก Intercooler ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า

สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือก Intercooler สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

  • ประเภทของเครื่องยนต์ – เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามักใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีเทอร์โบ ซึ่งต้องการ Intercooler ที่รองรับการทำงานต่อเนื่อง
  • ขนาดและกำลังของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า – เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีกำลังสูงต้องใช้ Intercooler ที่สามารถรองรับปริมาณอากาศอัดได้มากขึ้น
  • ระบบระบายความร้อน – หากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง ควรใช้ Water-to-Air Intercooler ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า

การบำรุงรักษา Intercooler เพื่อยืดอายุการใช้งาน

  1. ทำความสะอาดครีบระบายความร้อน เป็นประจำเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกอุดตัน
  2. ตรวจสอบรอยรั่ว ของท่ออากาศและระบบน้ำหล่อเย็น
  3. เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นหรือของเหลวระบายความร้อน ตามรอบที่กำหนด
  4. ตรวจสอบการไหลของอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่าอากาศสามารถผ่านเข้าออก Intercooler ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Intercooler จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์โดยทำให้อากาศเย็นลงก่อนเข้าสู่กระบอกสูบ ซึ่งมีความสำคัญทั้งในระบบเครื่องยนต์ของรถยนต์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่มี เทอร์โบชาร์จเจอร์

หากกำลังมองหา Intercooler และ Turbo Charger คุณภาพสูง พร้อมบริการติดตั้ง ทดสอบระบบ และบำรุงรักษาเครื่องยนต์สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องสูบน้ำดับเพลิง ติดต่อ Engineering 1986 พร้อมให้บริการด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ

ปัญหาจาก Intercooler รั่ว หรือ ชำรุด และทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

หาก Intercooler ในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเกิดปัญหา เช่น รั่วซึม อุดตัน หรือระบายความร้อนไม่ดี จะส่งผลต่อระบบเครื่องยนต์โดยตรง ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง

  1. อุณหภูมิอากาศอัดสูงขึ้น ลดประสิทธิภาพการเผาไหม้

ปกติ Intercooler มีหน้าที่ลดอุณหภูมิของอากาศที่ผ่านเทอร์โบก่อนเข้าสู่กระบอกสูบ เมื่อชำรุดอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์จะร้อนขึ้น ทำให้มีปริมาณออกซิเจนน้อยลง ส่งผลให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์

  • ผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้น
    • กำลังเครื่องลดลง
    • สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น
    • เกิดควันดำจากไอเสีย
  1. เทอร์โบชาร์จเจอร์ทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่อความเสียหายของอุปกรณ์

อาจเกิดจาก Intercooler รั่ว ทำให้แรงดันอากาศอัด (Boost Pressure) ลดลง เทอร์โบต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยแรงดัน

  • ผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้น
    • เทอร์โบเสื่อมสภาพเร็ว
    • เพิ่มความร้อนสะสมในเครื่องยนต์
    • มีเสียงผิดปกติ เช่น เสียงหอน หรือเสียงลมรั่ว
  1. เครื่องยนต์ร้อนเกินไป (Overheating) → เครื่องอาจพังและดับกระทันหัน

เมื่อ Intercooler ระบายความร้อนไม่ดี ทำให้อุณหภูมิในกระบอกสูบสูงขึ้น หากสูงเกินอาจเกิดอันตรายทำให้ Controller สั่ง Breakdown เครื่อง เครื่องดับระหว่างทำงาน ทั้งยังส่งผลกระทบไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทั้งหมดเพราะเจอความร้อนที่มากเกินไป

  • ผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้น
    • เครื่องยนต์อาจดับกะทันหัน
    • ลูกสูบและวาล์วอาจเสียหาย
    • มีความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะเสียหายรุนแรง
  1. น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็ว อายุการใช้งานลดลง

อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ น้ำมันเครื่อง เสื่อมสภาพเร็วและเหนียวข้น ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการหล่อลื่นของชิ้นส่วนสำคัญ เช่น ลูกสูบ ก้านสูบ แบริ่งเทอร์โบ อาจทำให้เกิด การสึกหรอของเครื่องยนต์ก่อนเวลา

  • ผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้น
    • สิ้นเปลืองค่าซ่อมบำรุง
    • ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่
    • หากละเลยการเปลี่ยนนำมันเครื่อง จะนำไปสู่การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนอื่นๆ
  1. ระบบเครื่องยนต์แจ้งเตือน (Alarm & Shutdown Protection)

ในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสมัยใหม่ที่มีระบบควบคุมอัจฉริยะ (Controller) เช่น Controller Deep Sea Electronics (DSE) อย่างเช่นรุ่น DSE 7320 MKII อาจมีการแจ้งเตือนหรือสั่งปิดเครื่องอัตโนมัติ หากตรวจพบอุณหภูมิอากาศอัดสูงเกินไป

  • ผลกระทบและปัญหาที่เกิดขึ้น
    • เครื่องอาจหยุดทำงาน (Breakdown) ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
    • สำหรับโรงพยาบาล อาจหมายถึงชีวิตของผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน
    • สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ส่งผลต่อต้นทุนและกำลังการผลิต
    • สำหรับโรงแรมและห้างสรรพสินค้า ส่งผลต่อความพึงพอใจในงานบริการ

หาก Intercooler เสียหาย จะทำให้ กำลังเครื่องลดลง สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เทอร์โบทำงานหนักขึ้น และเครื่องยนต์ร้อนจัดจนเสียหายได้ ดังนั้น การบำรุงรักษา Intercooler อย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว เลือกใช้บริการจาก Engineering 1986 ให้ตรวจสอบและดูแลระบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าครบวงจร ตรวจสอบ Intercooler และ Turbocharger ตรวจเช็คแรงดันน้ำมันเครื่องระหว่างเครื่องทำงาน เช็คสภาพสีและปริมาณน้ำมันเครื่อง เช็คการรั่วซึมของท่อทางเดินอากาศและรอยรั่ว เปลี่ยนกรองอากาศตามระยะ

Engineering 1986 ผู้ช่วยงานซ่อมบำรุง Generator ประจำปี งานซ่อมแซมระบบ งานเปลี่ยนอะไหล่ ติดตั้งอะไหล่ ปรับปรุงระบบ ติดเทอร์โบชาร์จเจอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ ทีมวิศวกรของเรามีความเชี่ยวชาญในการติดตั้ง เปลี่ยนถอดชิ้นส่วน ซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ รวมถึง Overhaul เครื่องยนต์ ในระบบ Generator และ Fire Pump ดูแลระบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ใช้อะไหล่แท้ Turbocharger Garrett / Intercooler Garret

👨🏻‍🔧  Engineering 1986 ผู้เชี่ยวชาญงานซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ดีเซล และ Generator ซ่อมบำรุงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประจำปี พร้อมออกเอกสารรับรองจากทีมงานวิศวกรมืออาชีพผู้ เชี่ยวชาญงานซ่อมบำรุงประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ดำเนินงานโดยได้รับการรับรองและมีใบอนุญาตจากสภาวิศวกร พร้อมเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน พร้อมดูแลลูกค้าบริการ Hotline 24 ชั่วโมง ตลอดอายุสัญญา

🔹บริการตรวจสอบ ซ่อมบำรุง PM Generator  และ Fire Pump พร้อมตรวจสอบชิ้นส่วน บริการงานเปลี่ยนอะไหล่ Corrective Maintenance พร้อมรับประกันงานซ่อม 1 ปี ตลอดอายุสัญญางาน

🔹บริการตรวจสอบและซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ต้นกำลัง เครื่อง Generator และ Fire Pump ทุกรุ่น Volvo Penta , Cummins , Perkins , Mitsubishi , Catterpillar , John Deere , DETROIT , DOOSAN สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเครื่องสูบน้ำดับเพลิงประจำปี

🔹บริการ Preventive Maintenance / Annual Maintenance / Performance test Generator และ Fire Pump ตรวจสอบ อุปกรณ์ อะไหล่ทุกชิ้น รายงานและทดสอบประสิทธิภาพตามมาตรฐาน NFPA

🔹บริการ Training Free สำหรับการดูแลและตรวจสอบอะไหล่ด้วยตนเองตามรอบเองรายสัปดาห์และรายเดือน

🔹บริการสายด่วนฉุกเฉิน Hotline 24 ชั่วโมง ให้คำปรึกษาปัญหาหน้างาน ให้ลูกค้าเข้าใจปัญหาและแก้ไขได้เองเบื้องต้น โดยไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมเพื่อจ้างช่างเข้าไปแก้ไขหน้างาน

🔹 มี QR CODE รายงานผลการดำเนินงานให้เครื่องที่ดูแลกับเรา สามารถตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุงได้จากมือถือ ลดปัญหางานเอกสาร พร้อมทุกเมื่อสำหรับงาน Audit

👨🏻‍🔧 ดูแลเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องสูบน้ำดับเพลิง ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา ลดความเสี่ยงการเกิด Breakdown ในภาวะฉุกเฉิน เลือกบริการจากวิศวกรมืออาชีพ Engineering 1986 ที่ได้รับการรับรองจากสภาวิศวกร

24 Hours Hotline ‼️

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม งานบริการหรือสินค้าอื่น ๆ ได้ที่ 👇🏻

👩🏻‍🔧ฝ่ายขาย

☎️ Tel : 02-159-9477

☎️ Tel : 065-440-4513

📧 E-mail : sales@engineering1986.com

📧 E-mail : manager@engineering1986.com

👨🏻‍🔧ฝ่ายวิศวกรรม

🟢Line : @engineering1986 หรือ https://lin.ee/thW3g86

☎️ Tel : 02-159-9477

☎️ Tel : 063-072-9452